องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติศีลข้อ ปาณาติบาต คือ ห้ามการฆ่าเป็นข้อที่สำคัญอันดับหนึ่งและในพระสูตรของพุทธศาสนามหายาน ยังได้กล่าวถึงพระพุทธวจนะ ว่าด้วยเรื่อง อานิสงส์ ๑๐ ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์ ในคราวที่ได้เสด็จไปเทศนาโปรดบรรดาเหล่าพญานาคราชไว้ด้วยดังนี้
๑. เป็นที่รักใคร่ของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย
บุคคลผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่เบียดเบียนผู้ใด มีกิริยาสำรวม จรรยามารยาทเรียบร้อย ไม่กล่าวคำกระโชก ด่าทอกับใคร บุคคลเช่นนี้เมื่อก้าวไปสู่ที่ใดย่อมเป็นที่รักใคร่ มีแต่คนอยากเข้ามาใกล้ชิด
ในทางตรงกันข้าม หากเป็นคนที่สะสมไว้แต่อารมณ์ร้าย ๆ แววตาเต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งการฆ่า ทุกคนก็อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล
ถ้าภายในจิตใจเราไม่คิดจะไปทำลายหรือเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่น เราจึงไม่เป็นที่หวาดกลัวต่อผู้ใด แต่จะเป็นที่รักของสัตว์ต่าง ๆ แม้สัตว์ดุร้ายก็ไม่ทำอันตราย
๒. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
คนที่มีเมตตากรุณาอยู่ในใจ อย่าว่าแต่เห็นสัตว์ทั้งหลายต้องตายไปต่อหน้าเลย เพียงแต่เห็นสัตว์ต้องประสบเคราะห์กรรมถูกเฆี่ยนตี ก็ย่อมจะไม่สบายใจ นอกจากจะไม่เข่นฆ่าทำลายชีวิตผู้อื่นแล้ว แม้แต่จะเอ่ยวาจาด่าทอให้ระคายหูก็จะไม่กระทำโดยเด็ดขาด
เมื่อจิตเมตตาค่อย ๆ ถูกสะสมเพิ่มพูนจนเปี่ยมล้น ก็จะบังเกิดเป็นมหาเมตตาขึ้นในใจ และมหาเมตตานี้จะเพิ่มพลังจิตขึ้นในตัว นับเป็นเหตุปัจจัยสำคัญอันจะนำพาให้ผู้บำเพ็ญสามารถสำเร็จธรรมบรรลุขั้น พระโพธิสัตว์
๓. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์โหดร้ายเคียดแค้นได้
นอกเหนือจากความเห็นแก่ตัวเพื่อปากท้องตัวเองอันเป็นเหตุให้เกิดการเข่นฆ่า ทำลายชีวิตผู้อื่น และสาเหตุใหญ่ของการทำร้ายซึ่งกันและกัน คือ ความโกรธแค้น อาฆาต พยาบาทจองเวรต่อกัน ซึ่งนับวันก็จะกลายเป็นคนโหดร้ายเห็นความตายของผู้อื่นเป็นเรื่องเล็กน้อย
ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องตัดอารมณ์เหล่านี้ให้หมดสิ้น และไม่เพียงแต่จะรักชีวิตตนเองเท่านั้น แต่ยังจะต้องรักและทะนุถนอมชีวิตผู้อื่นอีกด้วย หากชาตินี้เรายังฆ่ากินเลือดเนื้อเขา ความแค้นพยาบาทจะฝังอยู่ในกมลสันดาน และจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรติดตามทวงหนี้ชีวิตทุกชาติไป แล้วเราจะปฏิบัติธรรมให้หลุดพ้นได้อย่างไร?
๔. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
ความเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการผันแปรของดินฟ้าอากาศ หรืออาหารการกินที่ผิดธรรมชาติ ซึ่งอาจรักษาให้หายได้ด้วยยา แต่ทวายาไม่สามารถรักษาโรคกรรมได้
โรคกรรมอันเกิดมาจากการเคยสร้างอกุศลกรรมร่วมกันมาในอดีต การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ร่วมเสพเนื้อผู้อื่น ร่วมส่งเสริมผู้อื่นให้ฆ่าให้กินให้เสพ เป็นกรรมร่วมกัน จึงส่งผลให้คนเหล่านั้นต้องมาตายพร้อมกันในชาติปัจจุบัน เช่นเป็นโรคระบาดในคราวเดียวกันมาก ๆ ประสพภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหวตายหมู่ เป็นต้น
หากท่านอยากเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน จงงดเว้นบริโภคเนื้อสัตว์ และหมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ปลดปล่อยช่วยเหลือชีวิตสัตว์ทั้งหลายเป็นประจำ
๕. อายุมั่นขวัญยืน
ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกนี้ ทั้งคนและสัตว์ ต่างล้วนอยากให้ตนมีอายุยืนยาว แต่ความมีอายุยืนยาวนั้น มิใช่ขอกันได้ ถ้าหากในอดีตท่านเป็นผู้ที่ชื่นชอบนิยมยินดีในการบริโภคเนื้อสัตว์ ตลอดจนฆ่าและส่งเสริมให้ผู้อื่นฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การที่จะหวังให้ตนมีชีวิตที่ราบรื่นเป็นสุข และอายุยืนยาวนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้
บุคคลผู้ที่มีจิตเมตตา ชอบช่วยเหลือชีวิตสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็ก ๆ ก็ตาม อานิสงส์ผลบุญจะช่วยต่อชีวิตทำให้มีอายุยืนยาว
๖. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด
วัชรเทพทั้ง ๘ พระองค์ คือ เทพเจ้าผู้พิทักษ์ธรรมในพระพุทธศาสนา เมื่อบุคคลใดมีจิตมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณ
แม้ตาเนื้อของปุถุชนคนธรรมดา จะมองไม่เห็นบรรดาเทพพรหมที่เฝ้าคุ้มครอง แต่เมื่อถึงคราววิกฤตตกอยู่ในที่คับขัน เทพพรหมทั้งหลายเหล่านั้นก็จะพลิกผันเหตุการณ์ให้แคล้วคลาดรอดพ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงได้ในที่สุด
๗. ยามหลับนิมิตรเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นศิริมงคล
โดยปกติคนทั่ว ๆ ไป หากมีเรื่องราวรบกวนจิตใจให้วิตกกังวลว้าวุ่น เมื่อถึงยามพักผ่อนแม้ว่าร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสักปานใด ก็ไม่สามารถจะหลับลงได้หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ และท้ายที่สุดเคลิ้มหลับไป ก็จะฝันร้ายตลอดคืน
มีตัวอย่างมากมายของผู้ที่ดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เอาแต่สร้างกรรมชั่ว ประพฤติมิชอบ อาหารแต่ละมื้อจะต้องเพียบพร้อมไปด้วยเนื้อสัตว์ เมื่อยามหลับก็จะฝันเห็นแต่สิ่งที่เลวร้าย น่าเกลียดน่ากลัว แต่เมื่อได้ศึกษาและตั้งใจปฏิบัติธรรม งดบริโภคเลือดเนื้อผู้อื่น ก็มักจะมีโอกาสนิมิตรฝันเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นนิมิตรที่ดีเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง จะหลับและตื่นก็เป็นสุข
๘. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกันได้
คัมภีร์แห่งสัจธรรมได้กล่าวว่าสัตว์ทั้งหลายกับคนนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน มิได้แตกต่างกัน แต่เป็นเพราะความหลงผิดไม่รู้เท่าทัน จึงยึดรูปลักษณ์ภายนอกมาทำให้เป็นความแตกต่างว่านั่นเป็นสัตว์ นี่เป็นคน ฯลฯ
ผู้ปฏิบัติธรรมมีญาณปัญญา เห็นแจ้งในธรรมต้องปราศจากจิตที่เคืองแค้นอาฆาตผู้อื่น และมีจิตเมตตากรุณา คิดสงสารผู้อื่นที่หลงประพฤติผิด ทั้งพยายามหาวิธีฉุดช่วยให้เขากลับสู่เส้นทางแห่งความถูกต้องดีงาม
๙. สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
ตามกฎแห่งกรรม ผู้ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือชอบเสพเลือดเนื้อสัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปวิญญาณจะต้องร่วงลงสู่อบายภูมิทั้ง ๓ ได้แก่
1. นรกภูมิ 10 ขุม ต้องรับทุกข์ทรมานแสนสาหัส
2. เปรตภูมิ จะได้รับทุกข์ทรมานอยู่กับความหิวโหย
3. เดรัจฉานภูมิ เมื่อวิญญาณใช้หนี้บาปกรรมพ้นจากนรกภูมิและเปรตภูมิแล้วจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถูกเขาฆ่าตายชาติแล้วชาติเล่า จนกว่าจะครบกำหนดตามจำนวนที่ตนได้เคยทำลายชีวิตผู้อื่น
๑๐. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตวิญญาณจะมุ่งสู่สุคติภพ
ในมหายานสูตร มีเรื่องเล่าถึงวิบากกรรมของผู้ที่หลงผิดชอบเข่นฆ่าสัตว์และนำไปสังเวยฟ้าดินถวายต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นบาปอย่างมหันต์ อกุศลกรรมนั้นทำให้ต้องได้รับโทษโดยถูกสุนัขปีศาจรุมกัดกินเนื้อ ทุกข์ทรมานแสนสาหัส นับครั้งไม่ถ้วน
สาธุชนผู้ที่งดเว้นเนื้อสัตว์ ปลดปล่อยชีวิตสัตว์ให้รอดตายด้วยการถือศีลกินเจ ย่อมจะห่างไกลจากทุคติภพไม่ต้องไปรับโทษทัณฑ์อันน่าสะพรึงกลัว เมื่อจิตวิญญาณจะละสังขาร ก็อาศัยเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรมความดี ดลบันดาลให้เหล่าทวยเทพเทวารอรับขึ้นเบื้องบน
ฉะนั้นการศึกษาและปฏิบัติธรรมให้ได้สำเร็จลุล่วงผู้บำเพ็ญธรรม จักต้องละเว้นจากการเสพเลือดเนื้อชีวิตสัตว์โดยสิ้นเชิง พร้อมกับอนุเคราะห์ช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อให้หนทางการบำเพ็ญสู่ความหลุดพ้น ไม่ถูกขัดขวางจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ที่มา- http://thai.mindcyber.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น