วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การประเมิลอายุ Boiler Tube โดยการพิจารณาตรวจวัดอัตราการกัดกร่อน


          ในการประเมิลหาอายุใช้งานที่เหลือของ Boiler Tube (ท่อไอน้ำ) นอกจากจะวิธีการคำนวณ และตรวจสอบโดย Omega Method ร่วมกับ Replica Test แล้ว การตรวจวัดค่า Wall Thickness หรือค่าความหนาโดยรวมทำให้สามารถทราบถึง Maximum rate ของการเกิด Corrosion ซึ่งการหา Corrosion rate จะได้จากการเปรียบเทียบผลการวัด Wall Thickness สำหรับ Boiler ใหม่ๆ ควรวัดทุกๆ 5,000 ชั่วโมง ในช่วงที่มีโอกาส Shutdown ถ้าพบว่า Corrosion rate ค่อนข้างต่ำ ก็อาจยืดช่วงเวลาในการตรวจวัดออกไปได้ วิธีการตรวจวัด Wall Thickness ของท่อทำได้โดย Ultrasonic thickness measurements (UTM.) การใช้ Micrometer เพื่อวัด Diameter ของท่อเพื่อหา Wall Thickness ที่หน้าสนใจ เมื่อตรวจพบการบวม หรือการโตขึ้นของท่อ เนื่องจากการ Creep ทำให้ค่าผิดพลาดได้
          เมื่อการวัด Wall Thickness กระทำหลังจาก 10,000 ชั่วโมงขึ้นไปจะสามารถประเมิล Pattern ของอัตราการเกิด Corrosion ในบริเวณตำแหน่งที่ทำการวัดได้ เมื่อทราบ Maximum corrosion rate ก็จะสามารถคำนวนหา minimum residual tube lift ได้ (ซึ่งจะกล่าวในโอกาสต่อไป) ถ้าอายุท่อมากกว่าอายุของ Boiler ที่คาดไว้ ก็อาจหยุดหรือยืดระยะเวลาในการวัดออกไป เช่น ทุกๆ 20,000 ชั่วโมงก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการเปลียนแปลง Boiler operation เช่น เปลี่ยนชนิดของ fuel, การเพิ่ม Average boiler load ฯลฯ การวัดแบบปกติเป็นประจำ (Routine) จะต้องกลับมาดำเนินใหม่ต่อไป
ที่มา : Central Electricity Generating Board ประเทศอังกฤษ

ภาพตัวอย่างตำแหน่งตรวจสอบ Wall Thickness

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น