การทดสอบของ
WRC fissure bend test ดังภาพ
จะเห็นว่า การมีเฟอร์ไรต์จะช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกร้าวร้อน
ปริมาณของเฟอร์ไรต์จำเป็นต่อการป้องกันการเกิดรอยแตกร้าวร้อน แต่อย่างไรก็ตามปริมาณของเฟอร์ไรต์ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงไปตามเกรดของเหล็ก
stainless มีหลายเหตุผลว่า
ทำไมเฟอร์ไรต์จึงมีผลต่อการป้องกันการเกิดรอยแตกร้าวร้อน มันเป็นความเชื่อที่ว่า
เมื่อทำให้เกิดเฟอร์ไรต์ในเนื้อรอยเชื่อมแล้ว เปอร์เซนต์โครงสร้างเฟอร์ไรต์จะก่อตัวเป็นผลึก
พิจารณาภาพ c และ d ประกอบ (ซึ่งแสดงขบวนการแข็งตัวของ
stainless)
เพราะว่าโครงสร้างเฟอร์ไรต์นี้ สามารถที่จะละลายสิ่งเจือปนในเนื้อโลหะ เช่น
ฟอสฟอรัส และซัลเฟอร์
ซึ่งถ้าไม่มีโครงสร้างเฟอร์ไรต์มาละลายสิ่งเจือปนของธาตุเหล่านี้แล้ว
ธาตุเหล่านี้จะรวมตัวเป็นสารประกอบโลหะที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ และเมื่อรอยแยกตามขอบเกรนของสิ่งเจือปนลดลงแล้ว
จะทำให้ความสามารถในการป้องกันการเกิดรอยแตกร้าวร้อนได้ดีขึ้น
ปริมาณของเฟอร์ไรต์ในเนื้อรอยเชื่อมจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการเชื่อมแบบต่างๆ
ตัวอย่างเช่น การเชื่อมที่มีความยาวของการอาร์คใหญ่
และในการเชื่อมโดยใช้ลวดเชื่อมแบบหุ้มฟลั๊กจะทำให้ใช้โครเมี่ยมมากขึ้น
(ในรูปของเฟอร์ไรต์) และรูปแบบอื่นๆ ของเฟอร์ไรต์ โดยการออกซิเดชั่น
และการละลายของไนโตรเจน (ในรูปของออสเทนไนต์)
จะไปลดปริมาณของเฟอร์ไรต์ในเนื้อรอยเชื่อม เป็นผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของความไวต่อการเกิดการแตกร้าวร้อนในรอยเชื่อม
เช่น การเชื่อมซับเมอร์จ (Submerge)
และการเชื่อมแบบอื่นๆ ที่มีอัตราการหลอมละลายสูง เนื้อรอยเชื่อมจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากส่วนผสมทางเคมีของชิ้นงานที่นำมาเชื่อม
เป็นผลให้เกิดการลดลงของเฟอร์ไรต์ในเนื้อรอยเชื่อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น