จากสถานการณ์น้ำท่วม ในหลายจังหวัด เเละมีผลกระทบเป็นวงกว้าง สาเหตุที่ทุกคนอาจไม่คาดถึง หรือไม่คิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับสาเหตุน้ำท่วม
จากการวิเคราะห์สาเหตุหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปีนี้มีน้ำท่วมขยายเป็นวงกว้าง ดังนี้ครับ เเม่น้ำเจ้าพระยาประกอบด้วยเเม่น้ำสายหลัก 4 สาย คือ ปิง วัง ยม น่าน ซึ่่งใครๆก็ทราบกัน เเต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ร้อยละ 45 ของเเม่น้ำเจ้าพระยานั้น มาจากแม่น้ำน่าน ลองสังเกตดีๆนะครับ ถ้าปีใดที่จังหวัดน่าน ฝนตกหนัก หรือ น้ำท่วม ซึ่งเขื่อนกั้นเเม่น้ำน่านนั้นคือ เขื่อนสิริกิติ์ และเมื่อเขื่ีอนรองรับน้ำจนเต็มปริมาณการบรรจุ เขื่อนก็ต้องระบายน้ำ เพื่อป้องกันเขื่อนแตก
น้ำฝนที่ตกจากจังหวัดน่านทั้งหมดจะถูกปล่อยมาจังหวัดหลังเขื่อนทั้งหมด จึงทำให้พื้นที่จังหวัดภาค
กลางเริ่มทยอยท่วม
ซึ่งหากฝนที่จังหวัดน่านไม่หยุดตก ก็จะส่งผลให้น้ำท่วมยังดำเนินต่อไปครับ วิธีแก้ไขปัญหาของน้ำท่วมระยะยาว และยั่งยืนนั้น ต้องปลูกป่าที่ป่าต้นน้ำของจังหวัดน่านทั้งหมด ฟื้นฟูป่าไม้ที่โดนตัด ถึงจะทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตก มีต้นไม้ดูดซับไว้
ด้วยพระปรีชาญาณ ขององค์ในหลวง ที่ได้ดำเนินโครงการปิดทองหลังพระขึ้นเพื่อ แก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากไม่มีโครงการดังกล่าวน้ำอาจท่วมมากกว่านี้ หรือส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากกว่านี้ครับ
กล่าวโดยสรุป สาเหตุก็คือ ป่าไม้ ต้นเเม่น้ำน่าน โดนตัดทำลาย จึงทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกไม่มีต้นไม้ดูดซับน้ำ ส่งผลให้น้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้น้ำท่วมปีนี้หนัก เเละขยายเป็นวงกว้าง
ซึ่งที่กล่าวไป อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วม ซึ่งปัจจัยยังมีหลายปัจจัยซึ่งต้องนำข้อมูลหลายๆส่วนมาประกอบกันอีกทีครับ
ที่มาของเเหล่งข้อมูลอ้างอิง สถาบันและส่งเสริม และพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ
ส่วนสาเหตุที่สอง เนื่องจากปีนี้ พายุเข้าเป็นจำนวนมาก เเละเข้ามาเร็วกว่าปรกติ อาทิ พายุนกเต้น พายุนาเเก เป็นต้น ทำให้เขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้ำที่มาก และระบายน้ำไม่ทัน ทำให้ฝนในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำฝนทั้งหมด เขื่อนจึงไม่สามารถกั้นไว้ได้ จึงต้องปล่อยลงมายังพื้นที่หลังเขื่อนทั้งหมด ดังจะเห็นได้ดังข่าวว่า เขื่อนต่างๆเก็บกักน้ำจนถึงขั้นวิกฤติครับ
ส่วนสาเหตุที่สาม เนื่องจากเเต่ละจังหวัดได้ทำการกั้นน้ำ ทำให้เปรียบเสมือนการสร้างเขื่อนขึ้นย่อยๆ สะสมปริมาณน้ำไว้เป็นจำนวนมาก จนพนังกั้นน้ำเเตก และทย่อยท่วมในเเต่ละจังหวัดในภาคกลางครับ
หวังว่าข้อมูลนี้อาจจะช่วยนำไปประกอบการเเก้ไขอุทกภัยในครั้งต่อๆไปได้นะครับ
ซึ่งหากฝนที่จังหวัดน่านไม่หยุดตก ก็จะส่งผลให้น้ำท่วมยังดำเนินต่อไปครับ วิธีแก้ไขปัญหาของน้ำท่วมระยะยาว และยั่งยืนนั้น ต้องปลูกป่าที่ป่าต้นน้ำของจังหวัดน่านทั้งหมด ฟื้นฟูป่าไม้ที่โดนตัด ถึงจะทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตก มีต้นไม้ดูดซับไว้
ด้วยพระปรีชาญาณ ขององค์ในหลวง ที่ได้ดำเนินโครงการปิดทองหลังพระขึ้นเพื่อ แก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากไม่มีโครงการดังกล่าวน้ำอาจท่วมมากกว่านี้ หรือส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากกว่านี้ครับ
กล่าวโดยสรุป สาเหตุก็คือ ป่าไม้ ต้นเเม่น้ำน่าน โดนตัดทำลาย จึงทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกไม่มีต้นไม้ดูดซับน้ำ ส่งผลให้น้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้น้ำท่วมปีนี้หนัก เเละขยายเป็นวงกว้าง
ซึ่งที่กล่าวไป อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วม ซึ่งปัจจัยยังมีหลายปัจจัยซึ่งต้องนำข้อมูลหลายๆส่วนมาประกอบกันอีกทีครับ
ที่มาของเเหล่งข้อมูลอ้างอิง สถาบันและส่งเสริม และพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ
ส่วนสาเหตุที่สอง เนื่องจากปีนี้ พายุเข้าเป็นจำนวนมาก เเละเข้ามาเร็วกว่าปรกติ อาทิ พายุนกเต้น พายุนาเเก เป็นต้น ทำให้เขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้ำที่มาก และระบายน้ำไม่ทัน ทำให้ฝนในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำฝนทั้งหมด เขื่อนจึงไม่สามารถกั้นไว้ได้ จึงต้องปล่อยลงมายังพื้นที่หลังเขื่อนทั้งหมด ดังจะเห็นได้ดังข่าวว่า เขื่อนต่างๆเก็บกักน้ำจนถึงขั้นวิกฤติครับ
ส่วนสาเหตุที่สาม เนื่องจากเเต่ละจังหวัดได้ทำการกั้นน้ำ ทำให้เปรียบเสมือนการสร้างเขื่อนขึ้นย่อยๆ สะสมปริมาณน้ำไว้เป็นจำนวนมาก จนพนังกั้นน้ำเเตก และทย่อยท่วมในเเต่ละจังหวัดในภาคกลางครับ
หวังว่าข้อมูลนี้อาจจะช่วยนำไปประกอบการเเก้ไขอุทกภัยในครั้งต่อๆไปได้นะครับ
เครดิตยกให้ : Piyapongpom's blog
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น