น้อยคนนักในโลกนี้ที่จะไม่รู้จักคำว่า "อุปสรรค" แทบทุกคนต้องเคยประสบพอเจอกันมาแล้ว ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรในเรื่องการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ อุปสรรคในเรื่องของการทำงาน ฯลฯ แล้วแต่ว่าใครจะเจอมากเจอน้อย บางคนเจออุปสรรคในชีวิตมามากมาย แต่ก็สามารถฝ่าฟันไปได้จนประสบความสำเร็จในชีวิต กลายเป็นตำนานเล่าขานให้เป็นตัวอย่างและเป็นกำลังใจให้แก่คนรุ่นหลังเรียนรู้ เพื่อความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคเพียงเล็กน้อยก็มีความย่อท้อและยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในบ้านเรากำลังย่ำแย่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้แก่อุปสรรคของคนในสังคมลงไปอีก ก็เลยมีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ว่าด้วย ๙ วิธีเอาชนะอุปสรรคในชีวิต โดยเรียบเรียงมาจากในหนังสือชีวิตวันนี้ เล่ม ๑ ซึ่งเขียนโดย ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ เป็นนักคิด นักเขียน นักวิชาการ และจิตแพทย์ ผู้มีผลงานเป็นที่ยอมรับของเมืองไทย โดยท่านมีข้อแนะนำที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
1. มีความฝันและจินตนาการที่ดีเข้าไว้ ชีวิตถ้าขาดความฝันก็แห้งแล้ง เราต้องฝันว่า เรามีหนทางชนะอุปสรรค ความฝันที่ดีเหล่านี้จะทำให้เราเกิดกำลังใจ และอยากทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป
2. คิดว่าทุกอย่างมีความเป็นไปได้ พุทธศาสนาสอนว่า ทุกอย่างในโลกนี้มันเป็นอนิจจัง คือไม่แน่นอน ฉะนั้นความเป็นไปไม่ได้ ชีวิตคุณมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น จงเลิกพูดคำของคนที่เกิดมาเพื่อจะแพ้ และแพ้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มลงมือทำเสียอีก
3. อย่าคิดถึงปมด้อยของตัวเอง เพราะการนึกถึงปมด้อยของตัวเอง จะเป็นตัวฉุดให้คุณหยุดทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ คุณจะขาดความกล้าหาญ ขาดพลัง จงคิดว่าปมด้อยเป็นความปกติของชีวิตเราไม่ได้ แตกต่างและไม่ได้ด้อยกว่าใครๆ ไม่เป็นคนสมบูรณ์แบบหรอก และไม่มีใครที่ไม่มีความบกพร่องเลยเช่นกัน
4. ปลุกความกล้าให้เกิดขึ้นเสมอ จงลดความกลัวเหตุการณ์หรือผู้คนต่างๆ เสีย แล้ว บอกกับตัวเองว่าคุณเป็นคนกล้าหาญ จงหัดปฏิเสธความกลัวบ่อยๆ และบอกกับตัวเองว่าคุณกล้ามากขึ้นๆ ความกลัวต่างๆ จะจางไปจากตัวคุณเอง
5. มองจุดดีหรือจุดเด่นของตัวเองให้พบและเลิกดูถูกตัวเองเสียที คนเรามีทั้งดีและ ไม่ดีถ้าคุณคอยจับผิดตัวเอง มองแต่สิ่งที่คิดว่าไม่ดี คุณก็จะมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณเอง
6. มีความรักเพื่อนมนุษย์ให้มากขึ้น ให้ลดความเกลียดชังหรือความโกรธเพื่อนมนุษย์ เพราะถ้าคุณยิ่งเกลียดและโกรธ เท่ากับคุณสร้างศัตรูทุกวันๆ และมากขึ้นๆ ตามจำนวนความเกลียดและความโกรธของคุณ ถ้าคุณเข้าใจและยอมรับในความบกพร่องของเพื่อนมนุษย์ที่มีสาเหตุมาจาก “สันดานดิบ” ของแต่ละคนที่หลงเหลืออยู่ ร่วมกับความไม่รู้ของแต่ละคน ซึ่งมีกันทุกคน คุณก็จะโกรธเขาน้อยลง และจะยอมรับเขาได้มากขึ้นว่า เขาจะมีความทุกข์จากสิ่งบกพร่องของเขานั่นเอง อย่าให้ความบกพร่องของเขามาทำลายความสุขของชีวิตคุณเลย เราจะให้อภัยเขาได้ เพราะเข้าใจถึงความบกพร่องของเขาได้แล้ว แค่นี้ ก็ถือว่าคุณมีความรักให้เพื่อนมนุษย์ได้มากขึ้นแล้ว
7. มีทัศนคติที่ดีต่อโลกและชีวิต อย่ามองโลกในแง่ความเป็นจริงไปซะทั้งหมด เพราะชีวิตจะแห้งแล้ง จงมีความเชื่อที่ดี จงมีความหวังที่ดี และจงมีความรักที่ดี และมีจินตนาการถึงเหตุและผลที่เกิด ทั้ง 4 ตัวนี้จะทำให้คุณมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต ทั้งของตัวเองและคนอื่น จะทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
8. ถ่อมตน อย่าหยิ่งหรือจองหอง ความถ่อมตนจะทำให้เกิดสติปัญญา ความถ่อมตนจะทำให้เราไม่เหลิงถ้าเราอยากเป็นผู้ชนะอุปสรรค และความถ่อมตนจะทำให้เราไม่เจ็บปวดมากถ้าเราเป็นผู้แพ้
9. หมั่นศึกษาและเลียนแบบ บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งโดยการอ่าน การฟัง หรือ การไต่ถาม ประสบการณ์ชีวิตของคนเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกมามากมาย ถ้าเราได้ศึกษา เราจะเกิดกำลังใจ และอยากเลียนแบบอย่าง (ข้อนี้สำคัญถือเป็นวิธีการเรียนรู้โดยวิธีลัดไม่ต้องลองผิดลองถูกให้เสียเวลาจากประสบการณ์จริงไม่มีที่ไหนเปิดสอน และสามารถนำมาเป็นแนวทางปรับใช้กับชีวิตของคุณได้เลย ผมก็คนหนึ่งที่กำลังใช้วิธีนี้อยู่)
ถ้าคุณมีแนวคิดดังที่กล่าวมาแล้วนี้ และเริ่มลงมือปฏิบัติตาม อุปสรรคทั้งหลายในชีวิตก็จะน้อยลงเพราะคุณจะเกิดพลัง กำลังใจ สติ ปัญญา ความกล้าหาญ และกล้าลงมือกระทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ มีความเชื่อ ความหวังที่ดีในชีวิตมากขึ้น ศัตรูก็น้อยลง มีมิตรมากขึ้น ชีวิตมีความสุขและความสำเร็จมากขึ้น แม้บางครั้งถ้าเราไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคได้จริงๆ แต่เราก็จะมองข้ามไปและรอคอยโอกาสใหม่ด้วยจิตใจที่มองโลกในแง่ดี ไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่ผิดหวังจริงๆ มากมายนัก พร้อมจะเกิดกำลังใจใหม่และมีพลังเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งเท่ากับคุณเป็นผู้ชนะอุปสรรคนั้นนั่นเอง ถือเป็นก้าวแรกของการเอาชนะอุปสรรคแบบไม่รู้ตัวของคุณเอง
ที่มา : http://www.songpak16.com/aticle/9coice.html